Topic ID.✅ D45F5 ชนิดของโครงสร้างรองรับในงานวิศวกรรม: คุณลักษณะและข้อดีจุดด้วย

[Prichas]

โครงสร้างรองรับ (Foundation) คือส่วนที่สำคัญที่สุดขององค์ประกอบ เพราะเป็นส่วนที่ช่วยรองรับน้ำหนักรวมทั้งถ่ายโอนแรงทั้งผองจากโครงสร้างข้างบนสู่ชั้นดินหรือชั้นหินด้านล่าง การเลือกชนิดของฐานรากที่เหมาะสมกับลักษณะองค์ประกอบแล้วก็ภาวะดินเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ส่วนประกอบมีความมั่นคงยั่งยืนและปลอดภัย ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงจำพวกของรากฐาน คุณลักษณะ จุดเด่น รวมทั้งข้อตำหนิของแต่ละประเภท เพื่อช่วยทำให้รู้เรื่องและเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะควร

🌏🌏✨จำพวกของรากฐาน

โครงสร้างรองรับสามารถแบ่งออกได้เป็นสองจำพวกหลัก คือ ฐานรากตื้น (Shallow Foundation) และก็โครงสร้างรองรับลึก (Deep Foundation) โดยทั้งสองแบบมีความไม่เหมือนกันในด้านขององค์ประกอบ การออกแบบ แล้วก็การปรับใช้

1. ฐานรากตื้น (Shallow Foundation)
รากฐานตื้นเป็นโครงสร้างรองรับที่วางอยู่ใกล้กับผิวดิน รวมทั้งเหมาะกับส่วนประกอบที่น้ำหนักไม่มากหรือภาวะดินมีความแข็งแรงพอเพียง โครงสร้างรองรับชนิดนี้เป็นที่นิยมใช้ในส่วนประกอบทั่วๆไป ยกตัวอย่างเช่น บ้านพักอาศัย อาคารขนาดเล็ก รวมทั้งงานก่อสร้างที่ไม่สลับซับซ้อน

-------------------------------------------------------------
ให้บริการ Boring Test | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท เจาะสํารวจดิน บริการ Soil Test วิเคราะห์และทดสอบดิน ทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม (Seismic Integrity Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 Website:  เจาะสํารวจดิน
👉 Map: เส้นทาง
-------------------------------------------------------------

แบบอย่างของรากฐานตื้น
-ฐานรากแผ่ (Spread Footing): เป็นรากฐานที่มีการกระจายน้ำหนักของโครงสร้างในพื้นที่กว้าง เหมาะกับตึกที่มีคานและก็เสาสร้างบนพื้นผิวที่แข็งแรง
-รากฐานแถบ (Strip Footing): ใช้สำหรับรองรับกำแพงที่มีน้ำหนักเบาหรือองค์ประกอบที่มีลักษณะเป็นแนวยาว
-ฐานรากแผ่น (Mat Foundation): ใช้สำหรับส่วนประกอบที่ปรารถนากระจายน้ำหนักในพื้นที่ขนาดใหญ่ ดังเช่น อาคารสูงในพื้นที่ดินอ่อน

จุดเด่นของรากฐานตื้น
-ใช้งบประมาณน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับฐานรากลึก
-ก่อสร้างได้ง่ายและก็รวดเร็วทันใจ
-เหมาะกับพื้นที่ที่ดินมีความแข็งแรง

ข้อตำหนิของโครงสร้างรองรับตื้น
-ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพ
-ไม่สามารถที่จะรองรับโครงสร้างที่มีน้ำหนักมากมายได้

2. รากฐานลึก (Deep Foundation)
โครงสร้างรองรับลึกถูกออกแบบมาเพื่อกระจัดกระจายน้ำหนักขององค์ประกอบไปยังชั้นดินหรือชั้นหินที่มีความแข็งแรงอยู่ลึกใต้ผิว เหมาะกับองค์ประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินมีความอ่อนตัวสูง

แบบอย่างของฐานรากลึก
-เสาเข็มตอก (Driven Pile): เป็นเสาเข็มที่ถูกตอกลงดินเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เหมาะกับโครงสร้างขนาดใหญ่
-เสาเข็มเจาะ (Bored Pile): เป็นเสาเข็มที่เจาะดินและก็เทคอนกรีตลงไป เหมาะกับพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้เสาเข็มตอกได้
-โครงสร้างรองรับเสาเข็มลอย (Floating Foundation): ใช้ในโครงสร้างที่ปรารถนากระจัดกระจายน้ำหนักในพื้นที่ที่มีการทรุด

ข้อดีของฐานรากลึก
-สามารถรองรับน้ำหนักของโครงสร้างขนาดใหญ่ได้
-เหมาะกับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการทรุด
-เพิ่มความยั่งยืนและมั่นคงให้กับโครงสร้างในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง

จุดอ่อนของรากฐานลึก
-ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นยิ่งกว่าโครงสร้างรองรับตื้น
-ใช้เวลาและเทคนิคเฉพาะสำหรับในการก่อสร้าง
-จำเป็นต้องอาศัยการสำรวจดินให้รอบคอบเพื่อคุ้มครองป้องกันปัญหาที่บางทีอาจเกิดขึ้น

📌👉🥇การเลือกโครงสร้างรองรับที่สมควร

การเลือกจำพวกของรากฐานขึ้นอยู่กับหลายเหตุ ดังเช่นว่า น้ำหนักของโครงสร้าง สภาพดิน แล้วก็สิ่งแวดล้อม การสำรวจดิน (Soil Investigation) เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยทำให้วิศวกรสามารถประเมินและเลือกรากฐานได้อย่างเหมาะสม โดยแนวทางการเลือกมีดังนี้:

การประเมินน้ำหนักองค์ประกอบ:
ต้องคิดถึงน้ำหนักของโครงสร้างรวมทั้งการใช้งาน เป็นต้นว่า ตึกอาศัยอยู่ โรงงาน หรือสะพาน
การวิเคราะห์สภาพดิน:
ทำการเจาะตรวจดินรวมทั้งทดลองคุณลักษณะของดิน อาทิเช่น ความแน่น ความแข็งแรง และการซึมผ่านของน้ำ
สิ่งแวดล้อม:
พิเคราะห์สาเหตุที่อาจส่งผลต่อโครงสร้างรองรับ อาทิเช่น แรงสั่นสะเทือน อุทกภัย หรือดินกระหน่ำ
ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ:
เลือกโครงสร้างรองรับที่สามารถรองรับในสิ่งที่ต้องการและงบประมาณ

🌏🦖📢ตัวอย่างการใช้แรงงานในการก่อสร้าง

ที่อยู่อาศัย:
ใช้โครงสร้างรองรับแผ่หรือรากฐานแถบ ด้วยเหตุว่าน้ำหนักของส่วนประกอบไม่มาก รวมทั้งภาวะดินมีความแข็งแรง
อาคารสูง:
ใช้เสาเข็มเจาะหรือเสาเข็มตอกเพื่อรองรับน้ำหนักขององค์ประกอบและก็เพิ่มความยั่งยืนมั่นคง
สะพาน:
ใช้โครงสร้างรองรับเสาเข็มลึกเพื่อกระจายน้ำหนักของส่วนประกอบไปยังชั้นดินป้อมคง
โรงงานหรือคลังสินค้า:
ใช้ฐานรากแผ่นหรือเสาเข็มตามลักษณะของน้ำหนักบรรทุกและสภาพดิน

👉🛒✨ผลสรุป

การเลือกจำพวกของรากฐานที่เหมาะสมถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนรวมทั้งความปลอดภัยให้กับองค์ประกอบ รากฐานตื้นเหมาะสำหรับโครงสร้างขนาดเล็กและก็ดินที่มีความแข็งแรง เวลาที่ฐานรากลึกเหมาะสำหรับองค์ประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินอ่อน การวิเคราะห์ภาวะดินรวมทั้งการออกแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐานวิศวกรรมเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยทำให้โครงงานก่อสร้างเสร็จได้โดยสวัสดิภาพและยืนยง

การทำความเข้าใจข้อดีขอเสียของฐานรากแต่ละประเภทจะช่วยทำให้สามารถตัดสินใจเลือกรากฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยช่วยลดการเสี่ยงในระยะยาวของโครงสร้างในภายภาคหน้า
Tags : ทดสอบความหนาแน่นของดินในสนาม field density test

[Beer625]

ขอบคุณครับ

[Joe524]

น่าสนใจครับ

[deam205]

ทดสอบความหนาแน่นของดินในสนามราคาเท่าไหร่ครับ

[Chanapot]

น่าสนใจครับ

[Ailie662]

ขอบคุณค่ะ

[Cindy700]

สุดยอดมากค่ะ

[deam205]

สอบถามรายละเอียดได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ

[iammu]

สุดยอดมากค่ะ

[Joe524]

สุดยอดมากค่ะ

[Jenny937]

สอบถามราคาทดสอบได้ที่ Tel: 064 702 4996 นะคะ

[Beer625]

สุดยอดมากค่ะ

[Hanako5]

น่าสนใจค่ะ

[hs8jai]

ราคาเจาะสำรวจดินเท่าไหร่ครับ

[Beer625]

สอบถามราคาทดสอบได้ที่ Tel: 064 702 4996 นะคะ