สกรีน DFT คืออะไร พร้อมคำตอบจาก ร้านโฮชิ สกรีนเสื้อคุณภาพ

[Joe524]

หากมีคนต้องการรู้ว่า "สกรีน DFT คืออะไร" คำตอบสั้น ๆ ของผมคือ เป็นวิธีการพิมพ์บนฟิล์มแล้วใช้ความร้อนรีดลงผ้า ซึ่งหลายคนอาจจะเห็นว่าคล้าย DTF ทว่ามีรายละเอียดที่แตกต่างกัน จุดนี้เองที่ทำให้หลายคนงง




ในเวลาที่พูดถึง DTF และ DFT บางคนก็สงสัยว่ามันเหมือนหรือต่างกัน มีการเรียกสลับกันบ่อย แต่ถ้าดูตามหลักจริง ๆ DTF คือ Direct to Film ส่วน DFT หมายถึง Direct Film Transfer ในมุมมองบางคน บางคนหมายถึงการรีดฟิล์มติดผ้าโดยตรง ซึ่งไม่เหมือนการพิมพ์ตรงลงผ้าแบบ DTG

เอาแบบเข้าใจง่าย ๆ DTF กับ DFT ในตลาดบ้านเรา ถูกใช้ปนกัน เนื่องจากมีขั้นตอนใกล้เคียงกัน เริ่มจากพิมพ์บนฟิล์มใส โรยกาวผง อบกาวจนละลาย แล้วนำไปรีดบนผ้า จะเป็นเสื้อ ผ้า กระเป๋า หรือวัสดุที่ทนความร้อนก็ได้

แต่บางร้านอาจปรับสูตรหมึก ปรับชนิดฟิล์ม หรือปรับวิธีอบกาว ซึ่งทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน นี่จึงทำให้เกิดการใช้คำว่า "DFT" ในบางงาน เพื่อให้ผู้ซื้อรู้ว่านี่คืองานฟิล์มพร้อมรีดทันที




ในกรณีที่มีคนถามผมว่า "สกรีน DFT ดีไหม" ต้องบอกว่าข้อดีมันเยอะมาก แต่ก็ต้องดูว่าคุณสั่งจากที่ไหน และใช้ของเกรดอะไร ถ้าร้านใช้หมึกคุณภาพสูง ฟิล์มเกรดดี และกาวที่ได้มาตรฐาน ผลงานจะมีความทนทานสูง ลายและสีจะเหมือนแบบที่ออกแบบไว้ทุกจุด แม้ซักบ่อยก็ยังทน

แต่ถ้าร้านใช้หมึกราคาถูก กาวคุณภาพต่ำ ฟิล์มไม่ดี อายุการใช้งานจะสั้นลง ซักไม่นานก็เกิดการลอกหรือสีจาง ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากตัวเทคนิค แต่เป็นเพราะคุณภาพวัตถุดิบและการผลิตต่ำ

ข้อดีอีกอย่างของ DFT คือ พิมพ์ได้บนทุกเฉดสีของผ้า ไม่ว่าจะเป็นผ้าขาว ผ้าดำ หรือผ้าสีอื่น ๆ เพราะหมึกมีการพิมพ์รองพื้นสีขาว รีดแล้วก็จะได้สีที่ชัดแบบงานพิมพ์บนกระดาษ

ต่างจากงานสกรีนซิลค์สกรีนดั้งเดิม เพราะ DFT ใช้เวลาน้อยกว่า ไม่ต้องเสียเวลาทำบล็อก ไม่ต้องไล่ผสมสีชั้นต่อชั้น เพียงเตรียมไฟล์ก็พิมพ์ได้ทันที ใช้เวลาไม่นานก็ได้ฟิล์มรีดลงผ้า

คราวนี้มาพูดถึงความแตกต่างระหว่าง DTF กับ DFT หลายคนยังงง ผมจะเล่าให้ฟังง่าย ๆ แบบกันเอง คิดซะว่า DTF คือชื่อเทคนิคในตลาดโลก ในไทย DFT บางร้านใช้ทำตลาดเป็นฟิล์มพร้อมรีด เพื่อเน้นการตลาดให้ลูกค้ารู้ว่าพร้อมใช้

อีกมุมหนึ่ง DFT หมายถึงฟิล์มที่พิมพ์เสร็จ โรยกาว อบแล้ว พร้อมให้ลูกค้ารีด ส่วน DTF บางครั้งหมายรวมถึงกระบวนการพิมพ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะยังไม่โรยกาว หรือโรยแล้วก็ได้ นี่คือสาเหตุที่บางที DTF และ DFT ใช้แทนกันได้ และบางทีก็แยกกันใช้ชัดเจน

อีกจุดเด่นของ DFT/DTF คือ ช่วยให้ร้านเล็กสามารถทำงานสกรีนเสื้อได้ โดยไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องราคาแพงแบบ DTG หรือเครื่องสกรีนอุตสาหกรรม ใช้เพียงเตารีดร้อนหรือเครื่องฮีทเพรสก็พอ ลูกค้าหลายคนชอบมากเพราะสามารถสั่งเพียงลายเดียวก็ได้ ไม่มีข้อจำกัดขั้นต่ำเหมือนสกรีนบล็อก

ถ้าพูดในมุมของคนทำงานจริง ๆ คุณภาพของ DFT และ DTF ขึ้นอยู่กับ 3 อย่างหลัก ๆ นั่นคือ หมึก กาว และฟิล์ม หมึกที่ใช้ต้องเป็นหมึกพิกเมนต์คุณภาพสูงสำหรับงานฟิล์ม สีต้องสดและไม่ซีดง่าย กาวต้องเหนียวและยืดหยุ่นพอทนต่อการซักหลายครั้ง ฟิล์มต้องหนาและใสในระดับที่เหมาะสม ไม่กรอบหรือแตกง่าย พิมพ์แล้วหมึกต้องไม่ไหลซึม นี่คือสิ่งที่ร้านที่ใส่ใจคุณภาพจะเลือกใช้

ถ้าถามว่า "สกรีน DFT ดีไหม" ต้องบอกว่าดีสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแฟชั่น งานของที่ระลึก หรือโปรโมตกิจกรรม เพราะลายที่ได้ดูเหมือนมาจากโรงงานขนาดใหญ่ แต่ใช้เวลาทำสั้นมาก ราคาต่อชิ้นถูกกว่าวิธีสกรีนหลายสี แต่ก็มีข้อจำกัดนิดหน่อย เช่น บางผ้าทนความร้อนไม่ได้ก็ใช้วิธีนี้ไม่ได้ หรือถ้ารีดไม่ถูกวิธี เช่น อุณหภูมิไม่ถึง เวลากดไม่พอ ลายก็อาจจะติดไม่แน่น

ถ้าให้ผมพูดถึงร้าน DFT คุณภาพในกรุงเทพฯ ผมขอพูดถึง "ร้านสกรีนโฮชิ" เพราะที่นี่มีบริการพิมพ์ฟิล์ม DFT ให้ลูกค้าเอาไปรีดเอง หรือจะให้ร้านช่วยรีดติดเสื้อก็มีบริการ หมึกและอุปกรณ์ที่ใช้ก็คุณภาพสูง ไม่ใช้ของราคาถูกเพื่อลดต้นทุนเหมือนบางร้าน อีกอย่างคือร้านนี้อยู่ย่านดินแดง ห้วยขวาง เดินทางง่าย ลูกค้าในกรุงเทพสามารถรับงานด้วยตัวเอง และยังมีบริการจัดส่งทั่วประเทศแบบรวดเร็ว



ผมเคยเห็นงานที่ร้านโฮชิทำ คือ สีสดเด่นชัด ขอบเส้นชัดเจน ไม่มีหมึกไหลเยิ้ม พอจับผิวงานแล้วมันสัมผัสเรียบ ไม่หนาเกินไป ซึ่งตรงนี้แหละคือเสน่ห์ของ DFT ที่ทำแบบมืออาชีพ เพราะมันทำให้เสื้อใส่สบายไม่แข็ง ไม่เหมือนบางเทคนิคที่ทำให้ผ้าแข็งโป๊ก และที่สำคัญคือลูกค้าที่สั่งงานจากร้านนี้ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ผ่านการซักหลายรอบแล้วยังสวย ผมว่าเพราะเขาเลือกใช้กาวคุณภาพสูงกับหมึกแท้ ๆ ที่มีคุณภาพจริง ๆ

อีกอย่างที่ผมชอบคือ ร้านโฮชิเขาไม่มีขั้นต่ำโหด ๆ คือสั่งแค่ น้อยแค่ไหนก็ได้ หรือจะสั่งเป็น จำนวนมาก ก็ได้ ถ้าลูกค้ารีบใช้ก็มีคิวด่วนรองรับ ซึ่งสำหรับคนทำแบรนด์เสื้อผ้าหรือผู้เริ่มทำแบรนด์นี่คือสิ่งที่ช่วยได้เยอะ เพราะบางทีเรามีคำสั่งซื้อน้อย แต่อยากได้งานคุณภาพสูง ก็ไม่ต้องไปลงทุนเยอะ

พูดตรง ๆ เลยนะว่า ในวงการนี้ ร้านที่ทำ DFT คุณภาพดีจริง ๆมีไม่เยอะ เพราะส่วนใหญ่จะแข่งกันถูก ใช้ของเกรดต่ำ แต่ผลลัพธ์คืองานออกมาไม่ทน พอลูกค้าเอาไปใช้แล้วไม่พอใจ กลายเป็นไม่กล้าสั่งอีก แต่ร้านสกรีนโฮชิเขายอมลงทุนในวัตถุดิบดี ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้งานที่คุ้มค่า ซึ่งผมมองว่านี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เขามีลูกค้าประจำเยอะ



สรุปแบบตรงไปตรงมาเลยนะ ถ้าคุณกำลังหาข้อมูลว่า "DFT คืออะไร" ก็ให้คิดง่าย ๆ ว่ามันคือพิมพ์ลงฟิล์มแล้วรีดติดผ้าได้เกือบทุกชนิด เกือบทุกชนิดผ้า เหมาะกับงานแฟชั่น ของฝาก หรือแม้แต่งานเสื้อองค์กร ถ้าถามว่า "DFT คุ้มไหม" ผมตอบได้เลยว่าดีมากถ้าร้านเลือกใช้วัสดุคุณภาพ และถ้าคุณยังงงว่า "DFT กับ DTF คืออะไรต่างกัน" ก็ให้จำว่า DTF คือชื่อเทคนิคมาตรฐาน ส่วน DFT ก็คือฟิล์มพิมพ์เสร็จพร้อมรีด พร้อมรีดติดผ้าได้เลย และถ้าจะเลือกทำจริง ๆ ผมก็แนะนำ "HOSHI Kaizen" เพราะเขาเน้นงานดี สีสด ทน จัดส่งรวดเร็ว และบริการเป็นกันเองสุด ๆ


ติดต่อร้านเรา HOSHI KAIZEN
เบอร์โทร  098‑384‑5455
(ช่วงเวลาทำการ : 09:00 – 23:00 น. ทุกวัน)
LINE Official: @ho‑shi
เว็บไซต์ : www.ho-shi.com
อีเมล: [email protected]

[Jessicas]

ต่างกันยังไง DTF กับ DFT หาคำตอบกับ สกรีนโฮชิ

[Fern751]

DTF กับ DFT ต่างกันยังไง หาคำตอบกับ ร้านโฮชิ

[Jenny937]

ต่างกันยังไง DTF กับ DFT หาคำตอบกับ สกรีนโฮชิ

[Chigaru]

ต่างกันยังไง DTF กับ DFT หาคำตอบกับ สกรีนโฮชิ

[Chigaru]

ต่างกันยังไง DTF กับ DFT หาคำตอบกับ สกรีนโฮชิ

[Panitsupa]

DFT และ DTF ต่างกันแค่ไหน หาคำตอบกับ ร้านโฮชิ